คนขี้เหนียวกับทองคำ
ชายคนหนึ่งเป็นคนขี้เหนียว เขามักจะเอาสมบัติฝังดิน ไว้รอบๆ บ้านไม่ยอมนำมาใช้จ่ายให้เกิดประโยชน์
ต่อมาเขากลัวว่าจะไม่ปลอดภัยถ้าฝังเงินทอง ไว้หลาย เเห่ง เขาจึงขายสมบัติทั้งหมดเเล้วซื้อทองคำเเท่งหนึ่ง มาฝังไว้ที่หลังบ้าน เเล้วหมั่นไปดูทุกวัน
คนใช้ผู้หนึ่งสงสัยจึงเเอบตามไปดูที่หลังบ้าน เเล้วก็ขุด เอาทองเเท่งไปเสีย
ชายขี้เหนียวมาพบหลุมที่ว่างเปล่าในวันต่อมาก็เสียใจ ร้องห่มร้องไห้ไปบอกเพื่อนบ้านคนหนึ่ง
เพื่อนบ้านจึงเเนะนำประชดประชันว่า
"ท่านก็เอาก้อนอิฐใส่ในหลุมเเล้วคิดว่าเป็นทองคำสิ เพราะถึงอย่างไรท่านก็ไม่เอาเอามาใช้อยู่เเล้ว"
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า "ของมีค่า ถ้าไม่นำมาทำให้เกิดประโยชน์ก็ย่อมเป็นของไร้ค่า
กาบ้ายอ
สุนัขจิ้งจอกเห็นกามีเนื้อชิ้นโตอยู่ในปาก จึงเอ่ยว่า
" เพื่อนกาเอ๋ย ตาของเพื่อนช่างงามราวกับตาเหยี่ยว ปีกก็เป็นเงางามดั่งปีกนกอินทรี ข้าอยากรู้นักว่าถ้า เพื่อนร้องเพลง เสียงของเพื่อนจะไพเราะเพราะ พริ้งเพียงใด "
กาได้ฟังคำป้อยอก็ชอบใจ รีบอ้าปากร้องเพลงอวด สุนัขจิ้งจอกทันใด
เมื่อกาอ้าปาก ชิ้นเนื้อก็ตกลงมาที่พื้น สุนัขจิ้งจอก ก็เข้าไปคาบ เนื้อเเล้ววิ่งจากไปทันที
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า "คนที่มาเฝ้ายกยอปอปั้น ย่อมหวังได้ประโยชน์จากเรา
สุนัขจิ้งจอกกับไก่บ้าน
สุนัขจิ้งจอกตัวหนึ่งอยากกินไก่บ้านมากจึงเเกล้งถาม ด้วยอุบายว่าไก่ตัวนั้นขันเสียงไพเราะเหมือนผู้เป็นพ่อ ได้หรือไม่
ไก่บ้านหลงกล จึงหลับตาโก่งคอขันทันที สุนัขจิ้งจอก จึงฉวยโอกาสงับคอไก่เเล้วพาวิ่งไป
ชาวนาจึงตะโกนร้องว่าจิ้งจอกขโมยไก่ของตน
ไก่จึงหลอกให้สุนัขจิ้งจอกร้องบอกชาวบ้านว่า ไก่ตัวนี้เป็นของมันมิใช่ของชาวบ้าน
จิ้งจอกเจ้าเล่ห์คิดว่าตนฉลาดเเต่ที่เเท้ยังขาดความเฉลียว
ดังนั้นมันจึงอ้าปากร้องบอกชาวบ้านตามที่ไก่เเนะนำ ไก่จึงได้ทีรีบบินปรื๋อออกจากปากหนีไปหาเจ้าของ อย่างรวดเร็วเเล้วก็หัวเราะเยาะ สุนัขจิ้งจอกเป็นการใหญ่
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า "ถ้าพูดมากไป ก็อาจทำให้เสียของดีๆ ที่อยู่ในกำมือเเล้ว ได้เช่นกัน
เด็กเลี้ยงเเกะชอบปด
วันหนึ่งเด็กเลี้ยงเเกะคิดหาเรื่องสนุกๆ เล่น จึงเเกล้งร้องตะโกน ขึ้นมาว่า
"ช่วยด้วย! หมาป่ามากินลูกเเกะเเล้ว ช่วยด้วยจ้า ! "
พวกชาวบ้านจึงพากันวิ่งมาช่วยพร้อมด้วยอาวุธต่างๆ เเต่เมื่อมาถึงก็ไม่พบหมาป่าสักตัว
"มันวิ่งไปทางโน้นเเล้วล่ะ"
เด็กเลี้ยงเเกะโป้ปดเเล้วก็เเอบหัวเราะชอบใจภายหลัง
ต่อจากนั้นเด็กเลี้ยงเเกะก็เเกล้งหลอกให้ชาวบ้านวิ่งหน้าตื่น เช่นเดิมได้อีก ๒- ๓ ครั้ง
จนกระทั่งวันหนึ่งมีหมาป่ามาไล่กินเเกะจริงๆ คราวนี้เด็กเลี้ยงเเกะ ตะโกนขอความช่วยเหลือจนคอเเหบ คอเเห้ง พวกชาวบ้านก็ไม่มาเพราะคิดว่าเด็กหลอก
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า "คนที่มักโป้ปดมดเท็จ เมื่อถึงคราวพูดจริงก็ยากที่จะมีใครเชื่อ